การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิดของฟีร์บิวตี้คลินิกภูเก็ต เป็นเทคนิคพิเศษ โดยการสร้างปลายจมูกใหม่ด้วยกระดูกอ่อนทั้งหมด ทำให้ปลายจมูกดูมีหยดน้ำสวยงาม

สำหรับผู้ที่ต้องการให้ปลายจมูกดูเรียวเล็ก มีหยดน้ำตรงปลาย ดูเหมือนสาวเกาหลี ต้องเลือกการผ่าตัดวิธีนี้ ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบพิเศษแบบเปิด หรือแบบโอเพ่น Open Rhinoplasty จากนั้นจะทำการแยกเนื้อเยื่อและเปิดผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูก เพื่อศัลยแพทย์ตกแต่งจะได้เห็นโครงสร้างจมูกได้อย่างชัดเจน และทำการปรับทรงต่อไป ส่วนซิลิโคนในเทคนิคนี้ จะใช้ซิลิโคนแบบ I-Shape ใส่ตรงสันจมูก ส่วนปลายจมูกจะทำการสร้างปลายใหม่ ด้วยกระดูกอ่อนทั้งหมดโดยใช้กระดูกอ่อนในจมูก (septal cartilage) ร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู (ear cartilage) เมื่อปรับทรงจมูกเรียบร้อยแล้วจะทำการเย็บปิดแผลแล้วใส่เฝือกอ่อน การเสริมจมูกวิธีนี้สามารถปรับแต่งรูปแบบจมูกแก้ไขจมูกได้ตามต้องการ

ผู้ที่ควรเลือกศัลยกรรมเสริมจมูกเทคนิคแบบเปิด มีดังนี้

1. คนที่มีจมูกสั้น หรือเรียกว่า short nose และต้องการทำปลายจมูกให้ยาวขึ้น
2. คนที่มีจมูกใหญ่เป็นรูปชมพู่ หรือมีปลายจมูกใหญ่ ต้องการทำปลายจมูกให้ดูเล็ก เรียวขึ้น
3. คนที่ต้องการผ่าตัดแก้ไขจมูก เนื่องจากเคยเสริมจมูกมาแล้ว และไม่ต้องการจะแก้ไขอีกก็ควรเลือกการผ่าตัดวิธีนี้ เพราะวิธีผ่าตัดนี้สามารถแก้ไขได้ทุกส่วน
4. คนที่มีผิวหนังบางหรือมีเนื้อน้อย เพราะวิธีผ่าตัดวิธีนี้จะเป็นการนำเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อนของเราเองมาศัลยกรรม จึงไม่มีโอกาสเกิดการทะลุของซิลิโคน
5. คนที่ต้องการเน้นให้ปลายจมูกสวย เรียว มีหยดน้ำ
    

วิธีการศัลยกรรมเสริมจมูกเทคนิคนี้

จะทำการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณฐานจมูกให้เห็นแกนจมูก จากนั้นจะทำการแยกเนื้อเยื่อและเปิดผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูก เพื่อศัลยแพทย์ตกแต่งจะได้เห็นโครงสร้างจมูกได้อย่างชัดเจน และทำการปรับปรุงต่อไป

ส่วนการเสริมตรงสันจมูก เพิ่มความมีมิตินั้น คุณหมอจิ ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่ฟีร์บิวตี้คลินิกจะใช้ซิลิโคนรูปตัว I ซิลิโคนอเมริกา เกรดพรีเมี่ยม เติมตรงสันจมูกให้โด่ง คม หรือในบางรายที่ไม่ต้องการมีสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ก็สามารถเอาเนื้อเยื่อ หรือ dermal fascia มาเติมสันจมูกแทนได้

ในส่วนของปลายจมูกนั้น ศัลยแพทย์ตกแต่งจะทำการสร้างปลายใหม่ด้วยกระดูกอ่อนทั้งหมด สามารถแก้ปลายจมูกที่สั้น หรือจมูกที่งุ้ม ให้สวยได้รูป ดูเรียวยิ่งขึ้น โดยใช้กระดูกอ่อนหลังหู(ear cartilage) ร่วมกับยืดผนังกั้นห้องจมูก (septal cartilage) เพื่อให้ได้ปลายจมูกที่ดูยาวขึ้นและมีหยดน้ำ

และในบางรายที่มีแกนจมูกใหญ่บานและนูน เราสามารถแก้ไขได้โดยการตะไบเหลาจมูกหรือการตรอกฐานจมูก เพื่อให้ทรงจมูกที่ได้สวยงามยิ่งขึ้น

หรือในกรณีที่ท่านมีปีกจมูกบานกว้างและใหญ่ ก็ควรศัลยกรรมตกแต่งปีกจมูก(Alarplasty) ไปพร้อมกับการเสริมจมูกด้วย เพื่อรูปทรงจมูกที่งดงาม

เมื่อศัลยแพทย์ตกแต่งทำการปรับปรุงแต่งรูปทรงจมูกให้สวยงามตามที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ก็จะทำการเย็บปิดแผล แล้วใส่เฝือกอ่อน เพื่อลดอาการเขียวช้ำบวม และเพื่อรูปทรงหลังผ่าตัด จะเห็นได้ว่าการเสริมจมูกเทคนิคพิเศษแบบเปิดนี้มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด เพราะสามารถปรับแต่งรูปแบบจมูกและแก้ไขรูปทรงจมูกได้ตามต้องการ

ข้อดีของการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด

1. สามารถแก้ไขรูปร่างจมูกได้ทุกรูปแบบและครบถ้วน เนื่องจากสามารถเป็นโครงสร้างภายในได้ดีกว่า
2. ไม่มีโอกาสเกิดการทะลุของเนื้อเยื่อ
3. โอกาสซิลิโคนเบี้ยวและเอียงน้อยกว่ามาก
4. สามารถตกแต่งปลายจมูกให้โด่ง ปลายพุ่งได้มาก เหมาะสำหรับคนที่มีจมูกสั้นและเนื้อบาง

ข้อเสียของการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด

1. ราคาสูงกว่าแบบปิด
2. พักฟื้นนานกว่า มีแผลบริเวณใต้ฐานจมูก
3. ใช้เวลาทำนานกว่าและยากกว่าแบบปิดและอาจจะบวมช้ำนานกว่า

รายละเอียดเบื้องต้นของการศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด

ระยะเวลาการผ่าตัด : 4-5 ชั่วโมง

ลักษณะยาชา : ยาชาเฉพาะที่ (Local anesthesia) หรือ ยาดมสลบ (General Anesthesia)

ระยะเวลาพักฟื้น : 11-2 สัปดาห์

ลักษณะการบวม :

• อาการบวมเขียวช้ำประมาณ 1 สัปดาห์
• อาการบวมจะค่อยๆลดลงใน 2-3 สัปดาห์

ตัดไหม : 1 สัปดาห์
 

การปฏิบัติตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมจมูก

1. งดรับประทานอาการเสริม เช่น วิตามิน E, น้ำมันตับปลา, ใบแปะก๊วย, สมุนไพร และยาแก้ปวดพวก NSAID ทุกชนิด ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพื่อลดอาการเขียวช้ำ - บวม
2. หลีกเลี่ยงการดื่มสุราอย่างน้อย 2-3 วันก่อนผ่าตัด
3. ใในกรณีเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวาน ต้องควบคุมระดับความดันและรับดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก่อนรับการผ่าตัด
4. งดแต่งหน้ามาในวันผ่าตัด และงดการสัก (tattoo) บริเวณใบหน้าก่อนผ่าตัด
    

การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก

1. ให้ประคบเย็นบริเวณผ่าตัด ภายใน 72 ชม.แรก หรืออยู่ในห้องหรือสภาพแวดล้อมที่เย็น เช่น ห้องแอร์เพื่อลดอาการบวมและปวด
2. หลีกเลี่ยงการล้างหน้าในช่วง 3 วันแรก สามารถเช็ดบริเวณอื่นได้ ยกเว้นบริเวณแผลผ่าตัด
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือการกระแทกจมูกโดยตรง อย่างรุนแรง
4. ควรนอนในท่านอนหงาย เป็นเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันเบี้ยวเอียง และหลักเลี่ยงการทำกิจกรรมในช่วง 1-2 สัปดาห์ เช่น การออกกำลังกาย